แนะนำสำหรับใครที่ดูคลิปหนังออนไลน์แล้วสะดุด ให้ลองใช้ google chrome ครับ

google chrome มีคุณสมบัติที่ดีสำหรับนักท่องเว็บครับ เพราะโหลดหน้าเว็บได้เร็ว และ ดูคลิปหนังออนไลน์ได้ดี ไม่สะดุด ลองหามาใช้กันครับ ติดตั้งง่าย และ เร็ว ที่สำคัญฟรีๆไม่มีค่าใช้จ่าย ลองดูคุณสมบัติ google chrome

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

INTEGRA (DC5) กับสไตล์การแต่งไม่เหมือนใครจาก ALPINEการตกแต่งเหมือนออกมาจากภาพยนตร์เรื่อง 2 FAST 2 FU

ในช่วงงานมอเตอร์โชว์เดือนเมษายนที่ผ่านมา ตัวผมเองได้มีโอกาสเข้าชมงาน และได้สะดุดตากับเจ้ารถโชว์เครื่องเสียงคันหนึ่งที่มีดีไซน์ในการตกแต่งเหมือนออกมาจากภาพยนตร์เรื่อง 2 FAST 2 FURIOUS ทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องนำเสนอการตกแต่งในรูปแบบนี้มาให้ท่านผู้อ่านได้ชมกันบ้าง
เจ้ารถคันที่เรากล่าวถึงนี้อาจเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะเจ้ารถคันนี้เป็น HONDA INTEGRA (DC5) หรือเป็นโฉมล่าสุดของรุ่นนี้ทีเดียว ส่วนที่มาของการนำรถคันนี้มาตกแต่งในรูปแบบนี้ก็เนื่องมาจากทางต้นสังกัดของบริษัท ALPINE ต้องการที่จะทำไว้โชว์เครื่องเสียงในประเทศต่าง ๆ สำหรับภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะ ถ้าหากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไหนสนใจ ก็จะติดต่อไปยังต้นสังกัดเพื่อนำไปแสดงกัน เราลองมาดูกันดีกว่านะครับ ว่ารถคันนี้มีอะไรที่โดดเด่นกันบ้าง


ภายนอกเน้นการตกแต่งสไตล์อเมริกัน
ภายนอกของเจ้า INTEGRA TYPE R คันนี้ จากเดิมที่เป็นสีขาว บ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็ได้ทำการปรับปรุงกันใหม่ด้วยสีสันที่สะดุดตากว่าเดิม โดยเน้นโทนสีฟ้าในรูปแบบการ “แอร์บรัช” (เป็นการทำสีโดยใช้การพ่นทีละส่วนจนออกมาเป็นรูป) เป็นรูปท้องทะเลที่บ่งบอกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งการตกแต่งด้วยสีสันในลักษณะนี้จะเป็นที่นิยมกันมากในอเมริกา โดยเฉพาะกลุ่ม LOW RIDER


เครื่องยนต์เน้นสมรรถนะด้วยระบบ i-VTEC
ภายใต้ฝากระโปรงของเจ้า INTEGRA คันนี้ยังถูกซุกซ่อนด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลังกับเทคโนโลยีแบบใหม่ภายใต้ชื่อ “i-VTEC” ในรหัส K20A กับความจุที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 1,800 ซี.ซี. มาเป็น 2,000 ซี.ซี. เราลองมาดูสเป็กเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้กันดีกว่าครับ
รหัสเครื่องยนต์ K20A
แบบ 2.0 L DOHC i-VTEC L4
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.) 86.0 x 86.0
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซี.ซี.) 1,998
อัตรส่วนกำลังอัด 11.5 : 1
แรงม้าสูงสุด (PS/rpm) 220/8,000
แรงบิดสูงสุด (kg-m/rpm) 21.0/7,000

ส่วนในของระบบส่งกำลังนั้น ในรุ่น DC5 ได้ทำการปรับปรุงมาเป็นเกียร์แบบ 6 สปีด ที่มีอัตราทดแบบ Close Ratio ซึ่งในส่วนนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญเมื่อเทียบกับเกียร์แบบ 5 สปีดในรุ่นเก่า สำหรับอัตราทดเกียร์นั้นมีดังนี้
1st 3.266
2nd 2.130
3rd 1.517
4th 1.212
5th 0.972
6th 0.780
Reverse 3.583
Final Gear 4.764

ช่วงล่างแบบใหม่เช่นกัน
สำหรับช่วงล่างนั้นในด้านหน้าและด้านหลังยังคงรูปแบบเดิม คือแมคเฟอร์สันสตรัท และดับเบิลวิชโบน แต่ความพิเศษที่เป็นแบบใหม่ก็คงเป็นช่วงล่างในด้านหน้าได้ใช้ Lower Arm ที่เป็นแบบอะลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนัก นอกจากนี้ก็ยังมีระบบเบรกในด้านหน้าที่เป็นของ BREMBO กับคาลิเปอร์แบบ 4 พอร์ต ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม ทำให้เรื่องของระบบเบรก ต่างเป็นที่ยอมรับกันว่ามีคุณภาพที่เชื่อถือได้ ทางด้านล้อนั้นได้ทำการเปลี่ยนใหม่ไปใช้ของ MILE STAR ที่โดดเด่นด้วยการทำสีแบบน้ำเงินอะโนไดซ์ ทำให้ดูแล้วเข้ากับสีของตัวรถอย่างสวยงาม
ภายในโดดเด่นด้วยชุดเครื่องเสียงจาก ALPINE
จุดเด่นอีกอย่างของรถคันนี้อยู่ที่ชุดเครื่องเสียงที่สร้างทั้งคุณภาพและความกระหึ่มของเสียงออกมาได้อย่างสะใจ ในซิสเต็มนั้นจะประกอบไปด้วยตัวฟรอนต์ที่ได้เลือกใช้ของ ALPINE รุ่น IVA-D 900 R ตัวใหม่ล่าสุดของค่ายที่เป็นเครื่องเล่น DVD/CD/MP 3 แบบ 1 แผ่น พร้อมภาครับวิทยุ รวมทั้งยังมีจอมอนิเตอร์ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งจุดเด่นของรายละเอียดและคุณภาพของภาพก็อยู่ที่จอมอนิเตอร์ตัวนี้ เพราะใช้เทคโนโลยี Wide VGA ที่สามารถให้รายละเอียดของภาพสูงถึง 1.15 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังได้พ่วงตู้เชนเจอร์ของ ALPINE รุ่น DHA-S 680 E ที่เป็นเชนเจอร์แบบ 6 แผ่น สามารถเล่นได้ทั้งแผ่น DVD/VCD และ CD ในซิสเต็มชุดนี้ได้ต่อผ่านระบบที่เรียกว่า Ai-NET ให้ IVR-D 900 R เป็นตัวควบคุม โดยเจ้าเชนเจอร์เครื่องนี้สามารถอ่านแผ่นได้ทั้งแบบ Dolby Digital และ DTS พร้อมทั้งมีสัญญาณเสียงที่ใช้สายนำแสง Optical Digital


ทางด้านจอมอนิเตอร์ นอกเหนือจากที่ได้แสดงอยู่บนตัวฟรอนต์ IVR-D 900 R ที่อยู่กลางคอนโซลหน้าแล้ว ยังได้ต่อพ่วงเข้ากับจอมอนิเตอร์อีก 3 ตัว ซึ่งมอนิเตอร์ทั้ง 3 ตัวนี้เป็นของ ALPINE รุ่น TME-M 850 ที่มีความใหญ่ของหน้าจอถึง 8 นิ้วและเป็นตัวใหม่ล่าสุดที่ยังไม่มีขายในบ้านเรา มอนิเตอร์ 2 ตัวแรกได้ถูกนำไปติดไว้ตรงกระจกสามเหลี่ยมทางด้านข้างที่อยู่ระหว่างเสา B และ C Pillar เพื่อมุมมองทางด้านข้างทั้งซ้ายและขวา ส่วนอีกตัวจะอยู่ทางด้านท้ายรถที่โชว์ตอนเปิดฝาท้าย
สัญญาณเสียงได้ถูกส่งไปยังตัวถอดรหัส Multimedia Manager และทำหน้าที่เป็นปรีแอมป์รุ่น PXA-H 700 ที่ใช้วงจรแปลงสัญญาณดิจิตอลเป็นอะนาล็อกแบบ 24 Bit/96 kHz โดยใช้ชิปถอดรหัส Burr Brown ระดับ K เกรด ที่มีลูกเล่นต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวงจรชดเชยเสียงเบส, วงจรครอสโอเวอร์แบบดิจิตอลในตัว, วงจร Bass Focus, วงจร Graphic & Parametric Equalizer ฯลฯ พร้อมกับมีวงจรถอดรหัสทั้ง Dolby Digital, DTS และ Dolby Prologic II


สัญญาณเสียงชุดหน้าได้ถูกส่งไปเข้า MRV-F 540 ที่เป็นเพาเวอร์แอมป์แบบ 4 แชนเนลในตระกูล V 12 มีกำลังขับสูงสุด 90 วัตต์ x 4 แชนเนล ที่ 4 โอห์ม หรือ 100 วัตต์ x 4 แชนเนล ที่ 2 โอห์ม กำลังขับทั้ง 4 แชนเนล ได้ถูกนำไปขับลำโพงแบบแยกชิ้น 2 ทางในซีรี่ส์ DD Linear ที่เป็นอนุกรมล่าสุดที่ยังไม่วางจำหน่ายในบ้านเรา ลำโพงหน้าทั้ง 2 ชุดนี้ได้ถูกนำไปติดไว้ที่ประตูหน้าทั้งหมด ส่วนสัญญาณเสียงชุดหลังและเซ็นเตอร์นั้นก็ได้ถูกส่งไปเข้าเพาเวอร์แอมป์ MRV-F 540 อีกตัวหนึ่ง และก็ได้เลือกใช้ลำโพงในซีรี่ส์ DD Linear อีกเช่นกัน โดยลำโพงที่ขับสัญญาณเสียงเซ็นเตอร์แชนเนลนั้น ได้แยกเอาไปไว้ที่กลางคอนโซลหน้าชุดหนึ่งและเอาไว้ทางด้านบนของจอมอนิเตอร์ทางด้านท้ายอีกชุดหนึ่ง ส่วนลำโพงชุดหลังได้นำไปไว้ทางด้านท้ายเพื่อยิงเสียงออกทางด้านหลัง

ในเรื่องความกระหึ่มของเสียงได้มาจากเพาเวอร์แอมป์ รุ่น MRD-M 500 ที่เป็นเพาเวอร์แอมป์ Class D ในซีรี่ส์ V 12 AccuClass D ที่มีกำลังขับสูงสุด 900 วัตต์ x 1 แชนเนล ที่ 2 โอห์ม หรือ 250 วัตต์ x 1แชนเนล ที่ 4 โอห์ม 14.4 โวลต์ จำนวน 2 ตัว มาขับซับวูฟเฟอร์ขนาด 12 นิ้วแบบวอยซ์คอยล์คู่รุ่น SWR-1221 D ที่อยู่ในซีรี่ส์ TYPE R ที่สามารถทนกำลังขับได้สูงสุดถึง 300 วัตต์ RMS และตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 24-1000 Hz ส่วนเสียงเบสอีกชุดก็ได้ใช้ซับวูฟเฟอร์รุ่น SWR-1221 D นี้เช่นกัน แต่ได้เปลี่ยนไปใช้เพาเวอร์แอมป์รุ่น MRD-M 1000 ที่อยู่ในซีรี่ส์ V 12 AccuClass D เช่นกัน แต่มีกำลังขับสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 1600 วัตต์ x 1 แชนเนล ที่ 2 โอห์มหรือ 500 วัตต์ x 1 แชนเนล ที่ 4 โอห์ม 14.4 โวลต์ มาเป็นตัวขับซับวูฟเฟอร์อีก 2 ตัว
จะเห็นได้ว่าเจ้า INTREGA (DC5) คันนี้ เป็นรถที่ถูกตกแต่งในรูปแบบเฉพาะกิจ สำหรับโชว์เครื่องเสียงโดยเฉพาะ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการตกแต่งรูปแบบนี้ในบ้านเราคงเห็นกันเฉพาะในกลุ่ม LOW RIDER แต่ถ้าเป็นในอเมริกาแล้วละก็ การตกแต่งในรูปแบบนี้จะเป็นที่นิยมมากจริง ๆ ถ้าหากใครสนใจการตกแต่งในลักษณะนี้ก็ลองได้นะครับ ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะเป็นแฟชั่นก็ได้