แนะนำสำหรับใครที่ดูคลิปหนังออนไลน์แล้วสะดุด ให้ลองใช้ google chrome ครับ

google chrome มีคุณสมบัติที่ดีสำหรับนักท่องเว็บครับ เพราะโหลดหน้าเว็บได้เร็ว และ ดูคลิปหนังออนไลน์ได้ดี ไม่สะดุด ลองหามาใช้กันครับ ติดตั้งง่าย และ เร็ว ที่สำคัญฟรีๆไม่มีค่าใช้จ่าย ลองดูคุณสมบัติ google chrome

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552













คราวนี้มาดูการแต่งของรถค่ายสูบนอนกันบ้างอย่างกับ อิม-สีฟ้า 5 ประตู เรามาดูกันว่า จะเปลี่ยนโฉมอย่างไร จากรถครอบครัว มาเป็นรถซิ่งให้ถูกใจวัยรุ่น นั้นเขามีรูปแบบการตกแต่งเช่นไร ถึงได้สวยงามสะดุดตาขนาดนี้ มาให้ติดตามชมกัน

นิดๆ หน่อย ๆ กับรหัสสายพันธ์ GC และ GF

ในสายพันธ์รถยนต์แข่งขันแรลลี่ระดับโลกอย่าง Subaru ได้มีชื่อในการทำรถแข่งมายาวนาน จนมาถึงบอดี้ในรหัสตัวถัง GC – GF ซึ่งเปิด Line การผลิตช่วงราวปี 1992 ในเวอร์ชั่นแรก Subaru Impreza 2.0GT (ถ้าจำไม่ผิดเปิดตัวขายในบ้านเราเพียง 985,000 บาท) สร้างความฮือฮามาก ในรหัสตัวถัง GC8 ที่จะใช้เครื่อง 2.0 Turbo รหัส EJ20 เหมือนจะเอามาแข่งกับ EVO3 ( แหมแข่งในสนามไม่พอ ยังเอามาแข่งกันในถนนอีก) จากนั้นอีกไม่นานก็ปรับราคาทะลุขึ้นไปเป็นล้านกว่าๆ (ราว 1.1 ล้าน) เพราะขายดี แต่พอค่าเงินบาทลอยตัวราคาก็พุ่งขึ้นไปอีกเกือบเท่าตัว (ไปอยู่แถวๆล้านปลายๆ) และไม่นาน Subaru ก็ยังเปิดตัวประหยัดออกมาขายอีกหลายรุ่น เพื่อเอาใจแม่บ้าน พ่อบ้านในตัวถังบอดี้รหัส GC1 – GC2 ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์เพียง 1500 ซีซี ตัวนี้บ้านเราไม่ค่อยมี และเครื่องยนต์ 1600 ซีซี ในบอดี้รหัส GC3 ส่วนในบอดี้รหัส GC6 จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1800 ซีซี และส่วนในบอดี้รหัส GC8 อีกตัว ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์ 2000 ซีซี แบบไม่มีเทอร์โบ และรุ่นเทอร์โบขายไปควบคู่กัน จากนั้น Subaru ก็ได้เข็น Impreza ในรูปแบบ Sport Wagon หรือที่บางคนเรียกว่า อิมคูเป้ หรืออิมแวน ออกมาขาย สร้างความแปลกตา ในรูปของแบบรถ 5 ประตู เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่รักครอบครัว (ส่วนผู้ที่ใช้รถ 2 ประตู เลยถูกประณาม กลายเป็นผู้ไม่รักครอบครัวไปโดยปริยาย) ในรหัสตัวถัง GF3 ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1600 ซีซี GF6 เครื่องยนต์ 1800 ซีซี ส่วนรุ่นรหัสตัวถัง GF8 ที่จะใช้เครื่อง 2000 ซีซี จนถึง GF8 WRX ที่จะใช้เครื่อง 2.0 Turbo ส่วนในสเปกต่างประเทศจะมีเครื่อง 2200 ซีซี ในรหัส EJ22 ทั้งแบบเทอร์โบ และ ไม่มีเทอร์โบให้ใช้กันอีกด้วย ซึ่งในเรื่องของ อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆของ GC รุ่น 4 ประตู และ GF รุ่น 5 ประตู แทบจะนำทุกอย่างมาสลับสับเปลี่ยนทดแทนกันได้ ยกเว้นแต่ เบาะท้าย และ กระจก ประตูฝาท้ายเท่านั้น และในบอดี้ GC ก็ได้ถูกปรับปรุงต่อเนื่องตามกันออกมาถึง 6 Version ซึ่งแต่ละเวอร์ชั่นจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันในแต่ละชิ้นส่วนภายนอก และเครื่องยนต์ และยังแตก line ออกเป็นรุ่นพิเศษอย่าง WRX , STi และรุ่น RA











เครื่องยนต์รหัสพันธ์แรง EJ20 เป็นเครื่องยนต์ในตระกูล Boxer หรือเครื่องแบบสูบนอนยัน เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้เพิ่งเกิด ใช้มาตั่งแต่สมัยคุณป้า คุณตา คุณอา คุณยาย อย่างรถเต่า Volkswagen จนถึง Super Car ระดับ Porsche และ Subaru ที่ใช้เครื่องยนต์ Boxer ที่พัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เครื่องแบบนี้มีข้อดีตรงที่ ลูกสูบจะเป็นลักษณะวางนอนขนานกับพื้นข้างละ 2 ลูกแบบทแยงมุม 180 องศา เป็นการหนีแรง G จากแรงโน้มถ่วงของโลก ข้อเหวียงอยู่แนวกลาง การวางลูกสูบแบบนี้ทำให้ได้เครื่องยนต์ที่มีขนาดสั้นมาก สิ้นเปลืองเนื้อที่น้อย เพลาข้อเหวี่ยงสั้นสูญเสียกำลังน้อย การบาล้านซ์ของน้ำหนักดี และมีจุดศูนย์ถ่วงของน้ำหนักต่ำ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ช่วยในการออกแบบรถให้มีสมรรถนะที่ดี และเกาะถนน เมื่อจับคู่กับระบบถ่ายทอดพลังที่พัฒนาโดย Subaru ในเรื่องของระบบเกียร์ เฟืองท้าย และระบบกระจายกำลังขับ 50 : 50 ทำให้สมรรถนะของ Impreza ดีจนหาคู่แข่งขึ้นมาเปรียบเทียบได้ยาก เครื่อง EJ20 Turbo เป็นเครื่องแบบ 4 สูบนอนยัน ขนาด 1994 ซีซี ด้วยช่วงชักขนาด 92 X 7.5 กำลังอัด 8.0:1 พ่วงเทอร์โบเข้าไปอีก 1 ลูก ทำให้มีแรงม้าที่ 240 แรงม้าในเวอร์ชั่นแรก และพัฒนามาเป็น 260 แรงม้าในเวอร์ชั่นที่ 2 หรือรุ่นคอขาว จนถึงเวอร์ชั่นสาม ก็ถูกพัฒนามาเป็นเครื่องที่หลายๆคนรู้จักในนาม EJ20 คอแดง มีกำลังยันเพดานความแรง 280 แรงม้า และใช้ต่อเนื่องกันมาจน Version 6 เป็นตัวสุดท้ายในรหัสตัวถัง CG บอดี้นี้













สำหรับอิมสีฟ้าแวนคันนี้ เครื่องยนต์เดิมเป็นเครื่องยนต์ในรหัส EJ18 ขนาด 1800 ซีซี ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ออโต้เมตริก มีกำลังเพียงน้อยนิด 110 แรงม้า เมื่ออยู่ในรถแวนขับไปจ่ายตลาด ถือว่าเป็นที่ลงตัว แต่ถ้าออกไปจ่ายตลาดยามดึกๆ แสงๆ สีๆ วับๆ แวมๆ ล่ะก็ เลยอยากมีม้าที่กระปี้ประเป่าขึ้นอีกสักหน่อย ค่อยเหมาะสมกับบรรยากาศ EJ18 จึงถูกยกออกแบบไม่แยแส ไปหาซื้อเครื่อง EJ20 Turboของ Impreza รุ่น GC8 ใน Version IV (4) คอแดง ขนาด 280 แรงม้า เอามายัดลงไปทั้งตัว ถือว่าแรงเอาการอยู่ ปรับแต่งเพียงเล็กๆน้อยๆ ด้วยกรองเปลือย ของ HKS Supper Power Flow ดอกเห็ด ทำห้องกันกรองอากาศเสียหน่อย เพื่อไม่ให้กรองดูดเอา อากาศร้อนๆในห้องเครื่องเข้าไป ปรับแต่งส่วนผสมน้ำมันเล็กๆน้อยๆด้วย Regulator ของ SARD พอร์ทไอดีไอเสียถูกถอดออกมาขัดขยาย เพิ่มขึ้น และให้ลื่นขึ้น อินเตอร์คูเลอร์ขนาดใหญ่ของรุ่น STi ระบายความร้อนอากาศได้ดีขึ้นอย่างมาก เพิ่มแรงจุดระเบิดด้วยหัวเทียนของ HKS IRIDIUM S40 ทั้ง 4 หัว ระบบคายไอเสียตั้งแต่งตูดเทอร์โบเป็นของ Fujisubo แบบสแตนเลสขนาด 3 นิ้วตลอดทั้งเส้น จนถึงหม้อพักหลังขนาดใหญ่ เรียกว่างานนี้ม้าทุกตัวจะต้องมีกำลังวังชากันอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย







ช่วงล่าง Version 4 ล้อ 18 W work S1

ระบบส่งกำลังเริ่มต้นที่ ชุดครัชของ STi ทั้งชุด ส่งกำลังผ่านเกียร์ที่ยกมาพร้อมเครื่องในเวอร์ชั่น 4 ทั้งระบบเพลาขับ เฟืองท้าย จนถึงระบบเบรกขนาดใหญ่ แบบ 4 พอร์ทคู่หน้า และ 2 พอร์ทคู่หลัง เรียกว่างานนี้เป็นงานสวมกระดอง Version 4 กันเลยทีเดียว ช๊อคอัพทั้ง 4 ต้นตกเป็นภาระรองรับความหนืบของ CUSCO แบบ สตรัทปรับเกลียวทั้ง 4 ต้น ค้ำโช๊คหน้าเป็นของ STi แบบคาบอนเคฟล่า ส่วนค้ำช๊อคหลังเป็นของ STi อีกเช่นกัน รองเท้าคู่โตขนาด 18 นิ้วจาก W work รุ่น S1 ซึ่งงานนี้ต้องลงทุนสั่งตรงจากต่างประเทศ เพื่อให้ทาง W work ทำ Offset ให้มีขนาดพอดีกับรถ Subaru ซึ่งหาดูได้น้อยมาก จับคู่กับยางของ Yokohama ขนาด 225/45/18 เท่ากันทั้ง 4 เส้น เรียกกันว่างานนี้โยนโค้งกันเต็มแบบไม่มีเสียว













งานแต่งเติมเสริมหล่อสำหรับ เจ้าอิมแวนคันนี้ เรียกว่าลืมโฉมเดิมไปได้เลย เริ่มตั่งแต่ง ชุดหน้าของ Version 6 ทั้งชุด ตั่งแต่กันชนหน้า ที่ได้เสริมหล่อด้วยลิ้นหน้าจาก ISOTTA สวมต่อเพิ่มความสวยเข้าไป ไฟสปอร์ทไลท์ขนาดใหญ่ของ PIAA ไฟหน้าแบบโคมเพชร พร้อมชุดไฟ Xenon ฝากระโปรงหน้าแบบอลูมิเนียม ที่มีช่องระบายความร้อน และสคูปดักลมมาระบายอินเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ ไฟเลี้ยวแก้ม บังโคลน เปลี่ยนเป็นไฟขาว ให้เข้าชุดกัน และที่จะพลาดไม่ได้คือโลโก้ สีชมพูของ STi ถือจะเรียกว่าเต็มยศ หลังคายกซันรูปจากเวอร์ชั่นนอกมาเจาะใส่ สเกิตข้างของ C-West ส่วนหางหลังขนาดใหญ่ แบบ 2 ชิ้น โดยชิ้นบนเป็นของ Tomy kaira ซึ่งหาดูแทบไม่ในเมืองไทย เป็นสปอยหลังขนาดใหญ่ กว่าของ STi มาก ส่วนสปอยเลอร์ชิ้นล่างเป็นของชุดแต่งจาก STi และกระจกมองข้างทรงปลาทอง ของ STi Type RA เป็นกระจกจากตัวแข่ง WRC ที่สำคัญกระจกแบบนี้ปรับมืออย่างเดียวเท่านั้น












ภายในเบาะคู่หน้า เปลี่ยนเป็นทรงแข่งซึ่งยกมาจาก IM ตาเหี่ยว (เฮ้ย!! ตาเหยี่ยว) สีฟ้า ลาย STi ถือว่าเป็นเบาะที่ออกแบบมาได้สวยควบคู่กับรถงาม พวงมาลัยของ MOMO รุ่น Trek & Kart Design สวยงามสะดุดตา ช่วยในการประคองความแรงได้กระชับมือยิ่งขึ้น เกจ์วัดความร้อน ไอเสีย – วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง และวัด Boot เทอร์โบ เป็นของ Defi หน้ามืดทั้งสามตัวถูกติดตั้งกลางคอนโซล แบบ Triple Meter วัดรอบเครื่องยนต์ และความเร็วรถยนต์ด้วย จอฟ้า RSM ของ Apexi วัดรอบเครื่องยนต์ได้อย่างแม่นยำ และยังสามรารถบันทึกข้อมูลได้ทั้งหมด วัดรอบขนาดย่อม พร้อมไฟแสดงการเปลี่ยนเกียร์หรือ Shift Light ของ PIVOT หน้าขาวอีกตัว เรียกวันว่าภายในลืมรถครอบครัวของเดิมไปได้สนิทเลย
























บทสัมภาษณ์อิมแวน
อิมแวนคันนี้ แต่งสวยจนสาวเหลียวเลยเชียว (ทางเว็บเลยอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไม่ถึงเอาอิมแวนมาแต่ง ไม่เล่นตัว 4 ประตูล่ะ แต่แล้วมันดูโหดกว่านะ หรือชอบรถแวน แต่ดูหน้าตาก็ไม่น่าจะเป็น คนรักครอบครัวซักเท่าไหร่นะ) ไม่พี่ !! ก็รถมันโดนน่ะ (งง? โดนไรฟะ) มันเป็นสไตล์ครับ เห็นส่วนมากคนเล่นอิม มักจะชอบเอา ตัว 4 ประตู GC มาแต่งเป็นหลายๆเวอร์ชั่น ส่วนคนเล่น GF แวนน่ะหาดูได้น้อยมากพี่ พอเปิดดูนิตยสารต่างประเทศเห็นเขาแต่งตัว Van กันก็เลยชอบ ดูยังไงก็โดนจายครับ (อ๋อมีเหตุผลนี่ ชอบที่ความต่างไม่เหมือนใครนิ ) แต่สำหรับอิมจะเป็นตัว 5 ประตู หรือ 4 ประตู สำหรับคนรักอิมแล้ว ผมว่าเรื่องสมรรถนะ การเกาะถนน ความแรง ถือประทับใจมากๆครับ ผมว่าใครที่ชอบรถที่มีสมรรถนะดี อิม เป็นทางเลือกที่ดี ในราคาแต่งที่ไม่แพงมากอีกด้วย ส่วนเรื่องความแรงผมเน้นขับสนุกมากกว่าครับ ( เสริม !! เสียงเครื่องก็เร้าใจ ไม่เหมือนใคร )
ขอขอบคุณที่มา www.thaispeedcar.com